ประวัติพระคาถาพระปัจเจกะโพธิ์โปรดสัตว์

Wednesday, May 26, 2010

ประวัติพระคาถาพระปัจเจกะโพธิ์โปรดสัตว์




พระคาถาพระปัจเจกะโพธิ์โปรดสัตว์นี้ หลวงพ่อปาน (พระครูวิหารกิจจานุการ) วัดบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เรียนมาจากครูพึ่งบุญ อายุ ๙๙ ปี จังหวัดนครศรีธรรมราช (ท่านทำทานให้ขอทานครั้งละ ๑ บาท ซึ่งสมัยนั้นก๋วยเตี๋ยวข้าวแกงจานละห้าสตางค์เอง)



เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๑ หลวงพ่อปาน พร้อมด้วยคณะได้เดินทางไปทุกภาคของประทศไทย ทิศเหนือได้ไปเชียงตุงของพม่า ทิศตะวันออกไปสุดภาคอีสาน และได้ขออนุญาติข้ามเขตไปในอินโดจีนของฝรั่งเศสถึงประเทศญวน ทิศใต้ได้ไปถึงปีนังของอังกฤษ



ท่านครูพึ่งบุญเล่าประวัติพระคาถา



(มองดูแล้วตนในคณะที่ไปกับหลวงพ่อ อายุ ๕๐ เศษ เหมือนจะแก่ เท่า ๆ กับทาน) เมื่ออายุท่านได้ประมาณ ๔๐ ปี ได้มีพระธุดงค์เดินธุดงค์มารูปเดียว ท่านเห็นพระรูปนั้นแล้วรู้สึกเลื่อมใสมาก จึงได้นิมนต์ให้พักอยู่เพ่อบำเพ็ญกุศล ๕ วัน ได้ปฏิบัติท่านอย่างดีเท่าที่จะทำได้ ได้เรียนกรรมฐานจากท่าน ท่านได้สอนให้เป็นอย่างดี เมื่อจะกลับท่านพูดว่า “โยมฉันจะจุดธูปอาราธนาพระ แล้วอาตมาจะมาพบทางใน แล้วท่านได้มอบพระคาถาพระปัจเจกะโพธิ์โปรดสัตว์บทนี้ให้ พร้อมทั้งอธิบายวิธีปฏิบัติ ท่านว่าทำเพียงเท่านี้พอเลี้ยงตัวรอด เงินทองของใช้ไม่ขาดมือ ถ้าปฏิบัติเป็นกรรมฐานทำให้ถึงฌานแล้วจะร่ำรวยเป็ฯเศรษฐีโยมเอาพระคาถาบทนี้ภาวนาเป็ฯกรรมฐานเถิดนะ ไม่เกิด ๒ ปี โยมจะรวยใหญ่ เงินทองจะหลั่งไหลมาเองพระคาถาบทนี้ของพระปัจเจกพุทธเจ้า ตระกูลอาตมาได้เรียนสืบต่อกันมาทุกตน ไม่มีใครจน อย่างจนก็พลเลี้ยงตัวรอด”



ให้หลวงพ่อปานเรียนพระคาถา

เมื่อพูดจบได้มอบพระคาถาให้หลวงพ่อเรียนแล้วบอกว่าได้โปรดอย่าปิดบังพระคาถาบทนี้เลย ขอได้กรุณาแจกเป็นธรรมด้วย แล้วหลวงพ่อก็หลับตาเข้าสมาธิ ท่านครูผึ้งก็หลับตาเข้าสมาธิต่างคนต่างหลับตาประมาณ ๕ นาที ก็ลืมตาขึ้นพร้อมกัน ต่างคนต่างยิ้ม เสียงท่านครูผึ้งพูดว่า “ผมดีใจด้วยที่ต่อไปเบื้องหน้าท่านจะได้ศิษย์คู่ใจ” หลวงพ่อก็หัวเราะ



ตอบคำถามหลวงพ่อ

หลวงพ่อถามว่า ท่านอาจารย์ทำนานนักไหม จึงจะรู้ผลอาจารย์ตอบว่า ไม่นานครับ ประมาณเดือนแรกผ่านไป เริ่มรู้ผลระยะแรกให้ผลในทางกินก่อน เช่นข้าวหุงตามธรรมดา คนกินในบ้านก็กินเท่าเดิม เพิ่มการใส่บาตร แต่ข้าวเหลือ ผมเคยต่อว่าหุงทำไมหุงมากนัก เขาบอกว่าหุงเท่าเดิน ผมจึงสั่งให้ลดจนเหลือครึ่งจำนวนพอดี



เงินเริ่มเพิ่ม

เมื่ออาหารเริ่มลดความหมดเปลือง รายได้ก็เพิ่มขึ้นในระยะ ๑ ปี ผ่านไปเรื่องการเงินเริ่มไหวตัว เงินในที่เก็บเริ่มเกินบัญชี เงินจากร้านค้ารับมานับว่าพอดี พอรุ่งขึ้นมาจรวจเงินมากกว่าจำนวนทุกที ดีขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะทำอะไรเป็นเงินเป็นทองไปหมด เดี๋ยวนี้ผมทำอะไรไม่ไหว แต่ผมก็มีรายได้ทุกวันใครไปใครมา ขากลับคนนี้ให้บ้างคนนั้นให้บ้าง คิดเฉลี่ยผมมีรายได้วันละประมาณเกือบร้อยบาท พระคาถาบทนี้ศักดิ์สิทธ์มากครับ



ทำเป็นกรรมฐาน

หลวงพ่อได้ถามว่า ท่านอาจารย์ทำอย่างไร อาจารย์ตอบว่า ผมทำเป็นกรรมฐานเลยครับ ทำจนสว่าง หลับตาลงแล้วเกิดความสว่างขึ้น ได้เห็นพระพุทธรูปบ้าง พระสงฆ์บ้าง มีอยู่องค์หนึ่งครับจีวรสวยมากไม่เหมือนจีวรพระธรรมดา แล้วเริ่มเห็นเงิน คราวแรก ๆ เป็นจำนวนน้อย ๆ ต่อมาก็เห็นจำนวนมากตามลำดับ จนถึงกองใหญ่เหลือที่จะนับ ตอนนี้เองครับ เงินทองไหลมากันใหญ่ทำอะไรนิดทำอะไรหน่อยก็ดีไปหมด คนอื่นเขาทำขาดทุนผมลองไปบ้างก็มีกำไรดีเสียด้วย



ของเพิ่ม

มีเรื่องแปลกอีกครับ นอกจากเงินเพิ่มแล้ว ของก็เพิ่มอีกด้วยข้าวของที่อยู่หรือหาหาใหม่ มีบัญชีจดไว้ครบถ้วน ครั้นไปตรวจคราวใดของเกินบัญชีทุกที



เคล็ดลับ

หลวงพ่อถามว่า มีเคล็ดลับอะไรบ้างในการเข้าออกและการเก็บเงินใช้เงินอาจารย์ตอบว่า มีครับแหม ผมเกือบลืมบอก ดีแล้วครับถามดีมาก เรื่องนำข้าวของไม่ว่าเป็นอะไร จะเป็นของกิจ ของใช้ของขายก็ดีผมทำน้ำมนต์ด้วยพระคาถาบทนี้ไว้เมื่อนำข้าวของเข้าบ้านผมเอาใบพลู ๓ ใบ จุ่มน้ำมนต์พรมของนั้น ๓ หน พรม ๑ ว่าพระคาถาหนึ่งจบ



การนำเงินเข้าเก็บและนำออกใช้

เมื่อนำเงินเข้าเก็บและนำเงินออกมาใช้ ให้ว่าพระคาถานี้เท่ากับจำนวนที่สวดบูชาพระเช่น ปกติสวด ๗ จบ เมื่อนำเงินเข้าเก็บก็ว่าพระคาถานี้ ๗ จบ แต่อย่านับเงินก่อน ให้จบเงินแล้วว่าพระคาถาครบจำนวนเงิน จึงนำเงินออกมานับนอกที่เก็บ คำสนทนาครูพึ่งบุญกับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จบคำสนทนาของครูพึ่งบุญ กับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค



พระคาถาพระปัจเจกะโพธิ โปรดสัตว์



นะมโตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ



(ว่า ๓ จบ)



พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระยะโย



วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี



วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ



มานี มานะ พุทธัสสะ สวาโหม







พระคาถาบทนี้ สามารถพิสูจน์ทดสอบได้



เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้คนทั้งหลายว่า พระคาถาพระปัจเจกโพธิ์ โปรดสัตว์นี้ศักดิ์สิทธิ์ ได้ผลแน่นอนแล้ว ให้ทดสอบดังนี้ เอาต้นไม้ที่ออกดอกง่าย ๆ เร็ว ๆ เช่นต้นพริกหรือต้นคุณนายตื่นสาย (ต้นเซี้ยงไฮ้) ให้ปลูกไว้ ๒ กระถาง แล้วรดน้ำตามปรกติ อีกต้นหนึ่งรดน้ำธรรมดา แต่อีกต้นหนึ่งรดน้ำพร้อมทั้งท่องพระคาถาบทนี้ทุกครั้งจะเป็ฯผลแตกต่างกัน ทั้งความแข็งแรงและการผลิดอกออกผล ให้ท่านพิสูจน์เช่นนี้ จะเห็นความมหัศจรรย์ของพระคาถาบทนี้







ปรารภถึงหลวงพ่อ โดย นายประสงค์ ตั้งตรงจิตร ห้างขายยาตราใบโพธิ์ ท่าเตียน



เนื่องด้วยข้าพเจ้าเป็นศิษย์ของพระครูวิหารกิจจานุการ (หลวงพ่อปาน) วัดบางนมโค บ้านแพน อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งท่านได้มีพระคุณ ได้อบรมสั่งสอนวิชา และให้โอวาทความดีต่างๆ แก่ข้าพเจ้าตลอดมา



เท่าที่ข้าพเจ้าสังเกตในท่านที่มีพระคุณนี้เห็นว่าท่านในใจในพระคาถาของพระปัจเจกะโพธิ์มากกว่าสิ่งใด ๆ ทั้งหมด อาทิเช่น ท่านจะมีการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลใด ๆ ท่านต้องนำบทพระคาถานี้ออกแจกแก่บรรดาท่านทั้งหลายที่มาร่วมกันกระทำการกุศลนั้นทั้งบรรดาท่านที่คุ้นเคยนับถือและบรรดาศิษยานุศิษย์ทั่วกันทุก ๆ คน หรือท่านมีกิจจะไปพัก ณ ที่ใด ท่านจะต้องนำพระคาถานี้ติดตัวท่านไปแจกด้วยเสมอทุก ๆ ครั้ง หรือท่านบูชากับกองพระคาถานี้ในขณะที่ท่านผ่านไปมาทุกเมื่อ



หรือท่านจะอยู่ ณ สถานที่ใด ย่อมต้องกล่าวอ้างถึงความงามความดีแห่งพระคาถานี้เสมอ และแนะนำให้ผู้ทีมานั่งฟังอยู่ ณ ที่นั้นให้ไปกระทำตามพร้อมทั้งกล่าวยกตัวอย่างที่ท่านได้แนะนำไปแล้วนำไปแล้วว่าได้ผลดีอย่างไร ถึงกับได้นำของตัวอย่างมากให้ดูด้วย เช่น ต้นกล้วยที่มีผู้ปลูกแล้วต้นสูงใหญ่ผิดกว่าต้นกล้วยธรรมดา มีลูกมากกว่า ๕๐๐ ลูกต่อหนึ่งเครือ ตกปลีแล้วยังเหลือปลีใหญ่



อีกมากนัก ผู้ที่เห็นกับตาตนเองแล้วกล่าวอนุโมทนาทุกคนว่าแปลกประหลาดมาก ต้นกล้วยที่กล่าวนี้ท่านได้นำมาตั้งให้คนจำนวนมากดูอยู่ที่ลานวัดของท่าน เพื่อจะได้ชมเป็นขวัญตาทุกคน และยังมีอีกมากรายที่ท่านไดเล่าให้ฟัง เพื่อจะได้ชมเป็นขวัญตาทุกคน และยังมีอีกมากรายที่ท่านไดเล่าให้ฟัง มีผลดีทั้งนั้น การปลูกฟักที่ลูกมากมาย ฟัก ๓ ลูกใหญ่โตมาก ๓ ลูกหนักกว่า ๑ หาบ การปลูกมะม่วงอกร่องออกลูกเต็มต้น ผลมะม่วงใหญ่กว่าผลมะม่วงธรรมดาถึง ๓ เท่า การปลูกข้าวก็ได้ข้าวมากกว่าธรรมดามาก แต่เหลือวิสัยที่จะนำมาให้ดูได้ทุก ๆ อย่างเป็นแต่เล่าให้ฟังพอเป็นสังเขปเท่านั้น จึงเห็นว่าท่านสนในพระคาถานี้มากที่สุด



(นายประยงค์ ตั้งตรงจิตร์ เป็นศิษย์คนแรกที่ได้นำพระคาถาบทนี้ไปปฏิบัติอย่างจริงจัง จนได้ผลสำเร็จมาแล้ว จากคนธรรมดาไปเปลี่ยนฐานะเป็นเศรษฐี และได้ช่วยเหลือหลวงพ่อปานมาตลอด และเป็นผู้เผยแพร่พิมพ์แจกพระคาถาบทนี้)



หลวงพ่อปาน โสนันโท

หลวงพ่อปาน ถือกำเนิดที่ย่านวัดบางนมโค เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๔๑๘ อาชีพของครอบครัวคือการทำนา



หลวงพ่อปาน อุปสมบทเมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๔๓๘ โดยมีพระอุปัชฌาย์ คือหลวงพ่อสุ่นวัดบางปลาหมอ เป็นอาจารย์สอนจนสำเร็จกรรมฐาน



ได้หลวงพ่อเนียม วัดน้อย อ.บางปลาม้า สุพรรณบุรี เป็นอาจารย์สอนด้านกรรมฐานเพิ่มตอนมีชีวิตอยู่หลวงพ่อปานได้ช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บตลอดจนผู้คนที่ถูกคุณไสยฯ ต่างๆ จนหายเป็นปกติทุกรายไป



หลวงพ่อสุ่นและหลวงพ่อเนียมได้ทำนายหลวงพ่อปานว่าได้



ปรารถพุทธภูมิมามาก ทำมาเยอะแล้ว ชาตินี้เป็นชาติที่สุด การบำเพ็ญบารมีชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ต่อไปก็มีการเกิดจะตรัสเป็นพระพุทธเจ้าเท่านั้นหลวงพ่อปานมรณะภาพเมื่อ ๒๖ กรกฎาคม ๒๔๗๑







หลวงพ่อพระมหาวีระ ถาวโร



วัดจันทาราม (ท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี



หลวงพ่อพระมหาวีระ ถาวโร หรือหลวงพ่อฤาษีเป็นศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อปานมากที่สุด และเป็นผู้เขียนประวัติหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคให้เราทราบประวัติรายละเอียดจนทุกวันนี้ (หาซื้อหนังสือประวัติหลวงพ่อปานได้ที่วัดท่าซุง)



หลวงพ่อพระมหาวีระ ถาวโร ได้เพิ่มพระคาถาพระปัจเจกะพระพุทธเจ้าดังนี้



นะมโตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (ว่า ๓ จบ)



สัมปจิตฉามิ



นาสังสิโม



พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ



พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม



มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม



มิเตพาหุหะติ



พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระยะโย วิระโคนายัง



วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ



มานีมานะ พุทธัสสะ สวาโหม



สัมปะติจฉามิ



เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ



วิธีปฏิบัติต่อพระคาถาบทนี้



ให้ถูกต้องแล้วจะสัมฤทธิ์ผลอย่างแน่นอน ดังนี้



๑. ต้องตักบาตรหรือถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุทุกวัน ถ้ามีเหตุที่ไม่สามารถตัก



บาตรได้ ให้ใช้วิธีเก็บเงินใส่ทานถวายไว้ที่หิ้งพระหรือโต๊ะหมู่บูชาพระ ตอนที่



ท่านสวดมนต์ไหว้พระ และเมื่อครบ ๗ วันแล้วให้นำเงินจำนวนนั้นไปถวายวัด



ใส่ตู้ที่วัดเขียนว่า “ถวายภัตราหารพระ” หรือให้จบอธิษฐานว่าเป็นเงินถวาย



ภัตตาหาร พระเณรก็ได้ไม่ควรให้ช้ากว่า ๑๐ วัน เพราะบุญจะไม่ต่อเนื่องกัน



เรื่องนี้สำคัญ



๒. พระคาถาบทนี้ ต้องท่องสวดหลายๆ จบยิ่งมากยิ่งดี แต่อย่างน้อย ๆ ต่อหน้า



พระบูชาที่บ้านแล้วต้องครบ ๙ จบ ส่วนเวลาอื่น เช่น นั่งรถไปทำงาน หรือ



ขณะทำงานไม่ว่าจะนั่ง เดินให้ภาวนาตลอด ๆ เรียกว่า นึกได้เมื่อไร ก็ท่อง



ภาวนาพระคาถาฯ บทนี้ทุกขณะจิต ยิ่งจะได้ผลมากโดยเฉพาะคนที่ดวงชะตา



ตกอับจนเงินทองขัดสนยิ่งต้องภาวนามาก ๆ เรียกว่า ให้ท่องเป็นร้อยจบ



พัน จบได้ยิ่งดีโดยไม่ต้องจำเป็นต้องสวดภาวนาต่อหน้าพระบูชาก็ได้



ท่านใดก็ตามที่สามารถได้ใน ๒ วันนี้รับรองจะมีความเป็นอยู่ที่ดี เรื่องที่จะขัด



สนในด้านอาหารการกินจะไม่มีอย่างแน่นอน ขอรับรอง

0 comments:

Post a Comment