ประวัติหลวงพ่อสาคร ระยอง

Friday, May 28, 2010

หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่


จังหวัดระยองเป็นเกจิที่ประชาชนกำลังให้ความนิยมสูงสุดอยู่ในขณะนี้ท่านเป็นพระที่มีศิลลาจารวัตรงดงามและ

มีพุทธาคมอันแก่กล้าไม่ว่าจะเป็นด้านคงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม มหาลาภแคล้วคลาด

ซึ่งปรากฏได้ประจักษ์มาแล้วในผู้ที่เคารพนับถือและมีวัตถุมงคลของ

ลป.ทิมไว้บูชาซึ่งในปัจจุบันวัตถุมงคลของหลวงปู่เป็นที่เสาะแสวงหากันมากทั้งประชาชนทั่วไปและบุคคลในวงการพระเครื่อง

ผู้ที่มีอยู่ต่างก็หวงแหนเพราะประสบการณ์ที่ประสบมาด้วยตัวเองจึงทำให้เกิดแรงศรัทธาอันสูงสุด

แม้ลป.ทิมจะล้วงลับไปแล้ว แต่ความศักดิ์ก็ยังคงอยู่ ความศรัทธาจากประชาชนมิได้ลดน้อยถอยลงแต่อย่างใด

เมื่อครั้งที่หลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่มีลูกศิษย์ลูกหาหลวงปู่หลายท่านได้ถามหลวงปู่ว่า”หลวงปู่ครับ

เมื่อสิ้นหลวงปู่แล้วพวกกระผมจะพึ่งพิงพระรูปใดได้บ้าง”หลวงปู่ทิมได้ชี้ไปที่พระหนุ่มรูปหนึ่ง

ซึ่งในวันนั้นได้มาปฏิบัติหลวงปู่อยู่ด้วย”โน่น ท่านสาคร เขาเรียนของไว้เยอะ

ท่านสาครที่หลวงปู่พูดถึง ก็คือหลวงพ่อสาคร มนุญโญ วัดหนองกรับศิษย์เอกหลวงปู่ทิม

ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมไว้จนหมดสิ้น





พระครูมนูญธรรมวัตร หรือ หลวงพ่อสาคร ศิษย์เอกผู้สืบทอดพุทธาคมจากหลวงปู่ทิม อิสริโก

เป็นผู้ฝักใฝ่ในด้านเวทย์มนต์คาถาอาคมและวิชาแพทย์แผนโบราณมาตั้งแต่เด็กๆ

นามเดิมว่า สาคร ไพสาลี เกิดในกระกูลชาวไร่-ชาวนา เมื่อวันอังคาร แรม ๙ ค่ำ เดือน ๓ ตรงกับวันที่ ๓

กุมภาพันธ์ ๒๔๘๑ ซึ่งตรงตามคติโบราณที่ว่าบุคคลนั้นจะมีความพิเศษอยู่ในตัว

หากถือปฏิบัติก็จะพบกับความสำเร็จเจริญยิ่งๆขึ้นไปหากร้ายก็จะร้ายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้และบุคคลที่เกิด

ในราศีนี้จิตจะฝักใฝ่ด้านไสยศาสตร์เวทย์มนต์คาถา





โยมบิดาชื่อ นายกุ โยมมารดาชื่อนางนิด หลวงพ่อสาครเกิดที่บ้านท้ายทุ่ง หมู่สอง๒ ต.หนองกรับ อ.บ้านค่าย

(บ้านท้ายทุ่งแห่งนี้เป็นสถานที่เดียวกับบ้านเกิดของลป.ทิม)

หลวงพ่อสาครมีพี่น้องทั้งหมด๒คนคือ

๑.นางอยู่ ไพสาลี

๒.หลวงพ่อสาคร

หลวงพ่อสาครได้เข้าศึกษาเบื้องต้นในชั้นประถมปีที่ ๑

เมื่ออายุได้๕ปีที่โรงเรียนวัดหนองกรับจนจบชั้นประถมปีที่๔ เมื่อพ.ศ. ๒๔๙๐

ได้ออกมาช่วยโยมบิดา-มารดาประกอบอาชีพทำนาและเมื่อมีเวลาว่างก็จะออกเดินทางไปบ้านละหารไร่

เพื่อศึกษาวิชาไสยศาสตร์กับโยมหล่อและโยมทัต ซึ่งทั้งสองถือว่าเป็นผู้เรืองวิชาอาคมในสมัยนั้น

และเข้าปฏิบัติหลวงปู่ทิมอยู่เป็นนิจซึ่งนับว่าเป็นศิษย์รุ่นเยาว์ที่หลวงปู่ให้ความเมตตาเรียกใช้อยู่เสมอด้วยนิสัยและความสนใจด้านไสยศาสตร์มาแต่เด็กและโตขึ้นจึงเป็นคนหนุ่มที่มีวิชาอาคมติดตัวแต่ก็ได้ใช้วิชาที่ได้ร่ำเรียนมาไปทำร้ายใครกลับมีแต่ช่วยเหลือเพื่อนๆรุ่นเดียวกันมาตลอดเมื่ออายุครบ ๒๐ปี

โยมมารดาและญาติพี่น้องจึงได้ร่วมกันจัดพิธีอุปสมบทให้เป็นพระภิกษุที่วัดหนองกรับเมื่อวันพุธที่ ๔มิถุนายน ๒๕๐๑

โดยมีพระครูจันทโรทัย(หลวงพ่อดิ่ง)เป็นพระอุปัชฌายะเป็นพระกรรมวาจาจารย์และพระอธิการเคียง

วัดไผ่ล้อมเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า”มนูญโญ”เมื่ออุปสมบทแล้วได้เดินทางไปจำพรรษาที่วัดละหารไร่และได้ฝากตัวเป็นศิษย์ลป.ทิมเพื่อศึกษาพระธรรมวินัยและพุทธาคมจากหลวงปู่ทิมอย่างจริงจังจึงได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมต่างๆจากหลวงปู่ทิมจนหมดสิ้นโดยมิได้ปิดบังแต่อย่างใดเรียกได้ว่าเรียนได้กระจ่างชัดรู้จริงสามารถปฏิบัติได้เมื่อมีความเชี่ยวชาญในวิชาอาคมที่เรียนแล้วด้วยใจรักในด้านนี้จึงได้เสาะแสวงหาศึกษาวิชาอาคมจากลพ.เพ่งสาสโน วัดละหารใหญ่ ซึ่งหลวงพ่อเพ่งรูปนี้เดิมเป็นมหาดเล็กในเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรเขตดุดมศักดิ์ฯจึงได้ศึกษาวิชาอาคมจากหลวงปู่ศุข

วัดปากคลองมะขามเฒ่ามีวิชาด้านคงกระพันธ์เป็นเยี่ยมเขียนอักขระลงบนแผ่นตะกั่วเพียงตัวเดียวให้คนทดลองยิงก็ยิงไม่ออกเมื่อหลวงพ่อสาครได้ศึกษาวิชาอาคมจากหลวงพ่อเพ่งเป็นอย่างดีแล้วก็ได้รับคำแนะนำจากหลวงปู่ทิมให้ไปศึกษาวิชาจากหลวงปู่หิน

วัดหนองสนมซึ่งหลวงพ่อสาครก็ได้รับความเมตตาจากหลวงปู่หินถ่ายทอดวิชาให้เป็นอย่างดีหลังจากศึกษาวิชาอาคม

จากหลวงปู่หินแล้วหลวงพ่อสาสรก็เดินทางไปศึกษาวิชากับหลวงปู่โสม วัดบ้านช่อง อ.พานทอง

จ.ชลบุรีซึ่งเป็นพระที่มีวิชาอาคมแก่กล้าอีกองค์หนึ่งของภาคตะวันออกหลวงพ่อสาครก็ได้ศึกษาจนกระทั่งจบกระบวนท่า ด้วยนิสัยใฝ่รู้หมั่นศึกษา

หลวงพ่อสาครได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมจากบรรดาเกจิอาจารย์ต่างๆอีกหลายองค์ อาทิ

พ. ศ. ๒๕๐๓ ได้เดินทางไปศึกษากับอาจารย์เชียงคำ ที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า

พ.ศ. ๒๕๐๖ ศึกษากับอาจารย์สิน วัดนาวัง อ.บางละมุง ชลบุรี

พ.ศ. ๒๕๑๘ เดินทางไปศึกษากับอาจารย์สุพจน์ ที่ประเทศเขมร

พ.ศ. ๒๕๒๓ ศึกษากับพระอาจารย์สุมล คำเสียง ที่จังหวัดศรีษะเกษ

พ.ศ. ๒๕๒๕ ศึกษากับหลวงพ่อบุญเย็น วัดแจ้งนอก จ.นครราชสีมา

พ.ศ. ๒๕๒๖ ศึกษากับหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา

พ.ศ. ๒๕๒๗ ศึกษากับหลวงพ่ออาคม วัดดาวนิมิตร จ.เพชรบูรณ์

พ.ศ. ๒๕๒๘ ศึกษากับหลวงพ่อบึม วัดปราสาทกิน จ.ปราจีนบุรี

ฯลฯ



หลวงพ่อสาครยังได้ศึกษากับเกจิอาจารย์ที่เชี่ยวชาญทางด้านไสยเวทย์ต่างๆอีกหลายท่านทั้งพระภิกษุและฆราวาส

ในปีพ.ศ. ๒๕๐๘ พระครูเกลี้ยงธรรมถีโยเจ้าอาวาสลำดับที่๙วัดหนองกรับได้มรณภาพลง

ทายกทายิกาชาวบ้านหนองกรับได้เดินทางไปหาหลวงปู่ทิมที่วัดละหารไร่เพื่ออาราธนาหลวงพ่อสาคร มนูญโญ

ให้กลับมาเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองกรับ หลวงปู่ทิมได้อนุญาต

หลวงพ่อสาครจึงมาเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองกรับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถึงแม้ว่าท่านจะมาเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองกรับก็มิได้ทอดทิ้งหลวงปู่ทิมผู้เป็นอาจารย์ยังคงเดินทางไปกราบนมัสการดูแลหลวงปู่อยู่เสมอจนกระทั่งหลวงปู่ทิมได้มรณภาพลงในปี๒๕๑๘หลวงพ่อสาครก็เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ในการจัดบำเพ็ญกุศลศพหลวงปู่ทิมอย่างเต็มที่สมกับที่เป็นศิษย์ก้นกุฏิอย่างแท้จริงจนบรรดาลูกศิษย์ลูกหาอื่นๆของหลวงปู่ทิมกล่าวยกย่องชมเชยหลวงพ่อสาครกันทั่วหลวงพ่อสาครนอกจากจะสนใจศึกษาวิชาอาคมต่างๆแล้วท่านก็มิได้ทอดทิ้งในด้านการศึกษาพระธรรมวินัย

และเมื่อรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนองกรับซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า๒๐๐ปีและเคยถูกไฟไหม้เผากุฏิเสนา

สงฆ์จนวอดวายท่านก็มิได้ดูดายเมื่อมาเป็นเจ้าอาวาสก็ได้บูรณะและสร้างเสนาสนะใหม่ขึ้นมาเพื่อให้ภิกษุสงฆ์

สามเณรและพุทธศาสนิกชนได้ใช้ปฏิบัติศาสนกิจต่อไปด้วย

ความสามารถพิเศษของหลวงพ่ออีกอย่างหนึ่งคือมีความชำนาญในด้านปฏิมากรรมและวิจิตรศิลป์

การแกะสลัก,การปั้นลวดลายและวาดภาพฝาผนังตลอดจนการลงรักปิดทอง

ท่านจึงได้ลงมือบูรณะและก่อสร้างเสนาสนะถาวรวัตถุต่างๆด้วยตัวท่านเอง

ในปีพ.ศ.๒๕๒๔ ได้รับพระราชทานเป็นพระครูชั้นโท

“พระครูมนูญธรรมวัตร”หลวงพ่อสาครได้สร้างวัตถุมงคลขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ.๒๕๐๘

มีด้วยกันสองพิมพ์พิมพ์แรกเป็นสมเด็จรัศมีมีเนื้อผงใบลานเก่าสีดำหลวงพ่อได้นำใส่บาตรแล้วเผาไฟทำให้มีเนื้อแกร่งและอีกพิมพ์หนึ่งเป็นรูปปั้นหลวงปู่ทิมเนื้อผงใบลานสีดำเนื้อเดียวกับสมเด็จพิมพ์รัศมีหลวงพ่อสาครได้นำออกมาแจกแก่ญาติโยมครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๐ ในงานทอดผ้าป่า

พระชุดนี้ได้ก่ออภินิหารอย่างมากมายช่วยคุ้มครองชีวิตแก่ผู้นำติดตัวมาแล้วหลายราย

ต่อมาในปี๒๕๒๔หลวงพ่อสาครได้นำผงปัถมัง,ผงอิทธิเจที่ท่านเขียนเลขยันต์อักขระต่างๆ

,ผงของของหลวงปู่.ทิม,ผงอิทธิเจหลวงพ่อเพ่ง วัดละหารใหญ่,ผงปัดตลอดอาจารย์ภูเมือง,ผงพุทธคุณหลวงพ่อสิม

วัดถ้ำผาปล่อง,ผงพุทธคุณครูบาคำหล้า จ.เชียงใหม่,ผงพุทธคุณอาจารย์มั่น,ผงวิเศษหลวงพ่อจง

วัดหน้าต่างนอกและผงของเกจิอาจารย์ต่างๆที่หลวงพ่อได้ไปศึกษามาหลวงพ่อสาครได้นำผงเหล่านี้มาสร้างเป็นสมเด็จพุทธนิมิตซึ่งเป็นพระประธานในอุโบสถวัดหนองกรับหลังจากสร้างออกมาแล้วก็เป็นที่ฮือฮาขึ้นมาอีกครั้งเมื่อทหารนาวิกโยธินนายหนึ่งได้เหยียบกับระเบิดจนตัวลอยละลิ่วเมื่อเพื่อนๆวิ่งไปดูทหารคนนั้นไม่เป็นอะไรเลยในคอคล้องสมเด็จพุทธนิมิตองค์เดียวเท่านั้นจึงยกโขยงมาขอสมเด็จพุทธนิมิตจากหลวงพ่อไปเป็นจำนวนมากหลังจากนั้นหลวงพ่อได้สร้างวัตถุมงคลขึ้นอีกหลายพิมพ์ซึ่งก็ล้วนมีประสบการณ์ทั้งสิ้นจนทำให้วัตถุมงคลเหล่านี้หมดไปจากวัดอย่างรวดเร็ว

ในปีเดียวกัน(๒๕๒๔)หลวงพ่อสาครได้รับพระราชทานเป็นพระครูชั้นโท

หลวงพ่อได้สร้างเหรียญปิดตารุ่นฉลองสมศักดิ์ขึ้นด้านหลังเป็นยันต์ห้าเหรียญรุ่นนี้เป็นที่โจษขานกันมาอีก

รุ่นหนึ่งในบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในจังหวัดระยองเหราะทำให้มีฐานะดีขึ้นมาทุกวันนี้เพราะเหรียญปิดตาหลวงพ่อสาครนี่แหละหลวงพ่อสาครนับว่าเป็นที่เจริญรอยตามคณาจารย์โดยแท้ด้วยศิลลาจารวัตรที่งดงามอีกรูปหนึ่งท่านเป็นพระที่สมถะที่มากด้วยพระธรรมวินัยมีอาคมอันแก่กล้า

หลวงพ่อสาคร มนูญโญ วัดหนองกรับนับว่าเป็นเพชรน้ำเอกอีกรูปหนึ่งที่ประชาชนให้ความเคารพนับถือ

ท่านเป็นพระผู้สืบสานอาคมจากหลวงปู่ทิมผู้เป็นอาจารย์มิขาดตกบกพร่อง

0 comments:

Post a Comment